Chiang Mai Sakura
Chiang Mai Sakura
Chiang Mai : Khun Chang Kian
ความงดงามของดอกพญาเสือโคร่งที่บานสะพรั่ง
กับอากาศเย็นๆ ต้อนรับฤดูหนาว เพลิดเพลินด้วยกาแฟขุนช่างเคี่ยนหอมๆ
พร้อมกับรสสัมผัสที่เปรี้ยวฉ่ำ ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ที่แฝงไว้ด้วยความซับซ้อน
ถ้าบรรยายให้เห็นภาพ…คงคล้ายๆกับ
การนั่งรถผ่านเส้นทางโค้งบนเขาที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้สีชมพู หรือ “ซากุระเมืองไทย”
Farmer : Chartree Kck
Region : Kun Chang Kian, Chiang Mai
Altitude : 1,200 m.a.s.l
Process : Semi Anaerobic Honey LTLH Slow Dry Process
Taste Note : Lemon, Orange, Pineapple, Passion Fruit, Nut, Honey
Story Farmer : Chartree KCK
คุณชาตรี แซ่ย่าง หรือ พี่ชาตรี เกษตรกรผู้ผลักดันกาแฟขุนช่างเคี่ยนให้เป็นหนึ่งในกาแฟไทยคุณภาพดีเยี่ยมของประเทศ
และคว้าแชมป์ Best Quality Coffee Grade จากเวทีของSpeciality Coffee Association of Thailand ปี 2019
หลังจากที่ไปเรียนและทำงานอยู่ในเมืองพี่ชาตรีได้กลับมาบ้านแล้วเริ่มทำกาแฟในปี 2015
แต่เดิมพื้นที่นั้นเป็นสวนลิ้นจี่และได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นปลูกกาแฟ “เพราะกาแฟเป็นสิ่งที่อยู่กับเราตั้งแต่เกิด”
แล้วจะทำอย่างไรให้กาแฟมีคุณภาพ?
กาแฟที่จะมีมูลค่าก็ต่อเมื่อ…เป็นเครื่องดื่มที่อยู่ในแก้ว
ความฝันและแรงบันดาลใจจึงเกิดขึ้น พี่ชาตรีอยากทำร้านกาแฟที่ใช้เมล็ดจากบ้านเกิด
การจะพัฒนากาแฟ เราจะต้องเข้าใจเเละดื่มกาแฟให้เป็น เรียนรู้และศึกษาพื้นที่แหล่งเพาะปลูก ทดลองกระบวนการผลิตและ สร้างแบรนด์กาแฟให้เป็นที่รู้จัก
คุณชาตรี แซ่ย่าง หรือ พี่ชาตรี เกษตรกรผู้ผลักดันกาแฟขุนช่างเคี่ยนให้เป็นหนึ่งในกาแฟไทยคุณภาพดีเยี่ยมของประเทศ
ภาพบรรยากาศของหมู่บ้าน บ้านม้งดอยปุย
ที่มารูปภาพ : https://www.facebook.com/KhunChangKienCoffee
เบื้องหลังของลานตากกาแฟ
ที่มารูปภาพ : https://www.facebook.com/KhunChangKienCoffee
เยี่ยมชมไร่กาแฟและการแปรรูปของคุณชาตรี
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเมล็ดกาแฟเข้าสู่งานประกวด Thai Specialty Coffee Award 2017 และได้รางวัลอันดับ 3 ของการแปรรูปแบบ Washed Process ปีถัดมาได้รับรางวัลสาขาเดียวกันในอันดับที่ 5
และในที่สุดได้รับก็สามารถคว้าแชมป์อันดับ 1 Best Quality Coffee Grade 2019 ของการแปรรูปแบบ Honey Process และได้รับราคาในการประมูลสูงถึงกิโลกรัมละ 26,500 บาท)
เมื่อกาแฟขุนช่างเคี่ยนประสบความสำเร็จในการประกวดและมีชื่อเสียงระดับประเทศ ทำให้กาแฟเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ชาวบ้านจึงสามารถนำกาแฟมาสานต่อและพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ไปพร้อมกับการดูแลรักษาป่าและระบบนิเวศน์ให้มีความยั่งยืน
ความฝันของพี่ชาตรีที่อยากจะผลักดันกาแฟขุนช่างเคี่ยนและการเปิดร้านกาแฟเพื่อส่งมอบเครื่องดื่มที่ดีเยี่ยม มูลค่าของกาแฟคือเครื่องดื่มในแก้วของเรา ส่วนรสชาติคือเรื่องราวที่บอกเล่าการเดินทางของกาแฟ
Story Coffee : Chiang Mai Sakura
ที่มา : https://www.facebook.com/KhunChangKienCoffee
ขุนช่างเคี่ยน
สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หรือที่เรารู้จัก "ขุนช่างเคี่ยน"
เป็นสถานีวิจัยพืชและดอกไม้เมืองหนาว รวมทั้งวิจัยและแหล่งรวมความรู้ของกาแฟพันธุ์ต่างๆ ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีที่นี้จะมีดอกพญาเสือโคร่งบานสวยงามมากๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดชมวิวใกล้ๆ ตัวเมืองเชียงใหม่ และมีเส้นทางผ่านพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิวเศน์ และบ้านม้งดอยปุย
ดอยปุย
หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ บนระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 1200 เมตร สภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ป่าสนและดอกไม้เมืองหนาว มีอากาศเย็นและชื้นเกือบตลอดทั้งปี
Altitude: 1200 m
ระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 1200 เมตร
ความสูงจะทำให้มีสภาพอากาศที่เย็น จะ ยืดระยะเวลาในการเติบโต ในหนึ่งเมล็ดเชอรี่จะซึมซับแร่ธาตุสารอาหาร สามารถพัฒนารสชาติให้มีความซับซ้อนและมีความอุดมสมบูรณ์
Variety: Heirloom
Heirloom เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของหลากหลายสายพันธุ์ย่อย
ไม่ได้เจาะจงถึงสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง
สายพันธุ์พื้นเมืองที่เติบโตในแหล่งเพาะปลูก
Processing
Semi Anaerobic Honey LTLH Slow Dryเทคนิคพิเศษของการแปรรูปแบบ Semi Anaerobic Honey และการตากแบบ LTLH (Low Temperature Low Humidity)
ขั้นตอนของ Semi Anaerobic Honey LTLH Slow Dry
เริ่มจากนำเชอรี่กาแฟ Heirloom สายพันธุ์ดั้งเดิมของแหล่งเพาะปลูก เก็บไว้เป็นระยะเวลา 3 วันแล้วนำมาล้าง คัดแยกเมล็ด และไปสีให้คงเหลือเมือก (Mucilage) ห่อหุ้มอยู่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการ Honey Process จากนั้นนำไปหมักแบบ Anaerobic ในถังสุญญากาศ 4 วัน
เมื่อครบตามระยะเวลาจะนำผลเชอรี่ไปตากแดดให้มีความชื้นเหลือประมาณ 20 % แล้วนำมาตากในห้อง LTLH (Low Temperature Low Humidity) เป็นห้องที่ควบคุมสภาพอากาศเย็นและความชื้นต่ำ ทำให้กาแฟแห้งอย่างช้าๆ และไม่โดนความร้อนทำลายสารอาหาร ช่วยให้ผลิตกาแฟที่มีคุณภาพสูงและมีกลิ่นรสที่ดียิ่งขึ้น
Roast Value
กาแฟขุ่นช่างเคี่ยนเป็นกาแฟที่คั่วโดยเครื่องคั่วอัจฉริยะ Rubasse รูบาสส คือ แหล่งพลัง NIR (Near-Infrared) เทคโนโลยีการให้พลังงานความร้อน ที่นิยมในระบบอุตสาหกรรมอบแห้ง และทางการเเพทย์ ใช้พลังงานต่ำแต่ให้พลังความร้อน ที่คุ้มค่า สูญเสียพลังงานไปให้กับ สภาพแวดล้อมน้อยกว่า แหล่งกำเนิดความร้อนเเบบอื่น กาแฟสุกได้ดี โดยการแทรกซึมความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงที่ดี จากการ Radiation และสามารถ ควบคุม Conduction Convection ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
ระดับการคั่ว จะเป็นกาแฟคั่วอ่อน ที่มีค่าสีแอคตรอน 85 มีคาแร็คเตอร์ของกลิ่นหอมดอกไม้ มีความเป็นผลไม้เปรี้ยวฉ่ำ
Coffee Flavor : Colorful & Fruity
กาแฟ Chiang Mai Sakura เป็นกาแฟที่อยู่ในกลุ่มโทน Enzymatic
กลิ่นที่เกิดจากความเฉพาะตัวของสายพันธ์ุ แหล่งปลูก การแปรรูปกลุ่มโทน Citrus & Other Fruits, Tropical Fruit, Stone Fruit, Berry - like
รสชาติมีความหอมสดชื่นอ่อนๆ ให้รสสัมผัสที่มีความเปรี้ยวของผลไม้เลม่อน หวานละมุนของส้ม เพิ่มความซับซ้อนด้วยสับปะรดและเสาวรส มีความเป็นถั่วและน้ำผึ้งที่ช่วยให้กาแฟกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
Taste Note: Lemon, Orange, Pineapple, Passion Fruit, Nut, HoneyClassifying Log
Classifying Log เป็นการจดบันทึกที่จะใช้ในการแบ่งหมวดหมู่ของกาแฟพัฒนาขึ้นโดยสถาบันกาแฟยุคใหม่จากเกาหลี SCENTONE และ GCSGLOBAL COFFEE SCHOOL INTERNATIONAL CLASS FROM USA เพื่อใช้ในการอธิบายและประเมินกาแฟตามโทนใน Flavor Map สามารถใช้งานได้สะดวกและฝึกการสื่อสารได้ชัดเจน
ส่วนที่ 1 : Coffee Info รายละเอียดของข้อมูลกาแฟ
Country = ประเทศ
Region = ภูมิภาค
Farm = ไร่กาแฟ
Variety = สายพันธ์ุ
Process = การแปรรูป
Harvest Date = ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว
Moisture = ค่าความชื้นใน
Green Bean, Density = ค่าความหนาแน่นใน Green Bean
Roasting Date = วันคั่วกาแฟ
Roasting Info = ระดับการคั่วและค่าสีกาแฟ
ส่วนที่ 2 : Brewing Method รายละเอียดของการบรูว์กาแฟ
Method = วิธีการสกัด
Tool = เครื่องมือที่ใช้ (Machine/Dripper)
Coffee Dose = ปริมาณกาแฟ Grind Size = ขนาดเบอร์บด
Water(Extract) = ปริมาณน้ำการสกัด (g) ค่า TDS น้ำ (ppm)
Time = เวลาการสกัด
Extract = น้ำที่ผ่านการสกัด (g) ค่า TDS กาแฟ %(TDS)
Water (Dilution) = ปริมาณน้ำที่เจือจาง
Solid = สารละลายของกาแฟที่สกัดออกมา(g)
Yield = อัตราการสกัด (%)
ส่วนที่ 3 : Sensory Log รายละเอียดการชิม
Aroma Intensity = กลิ่น
Body = น้ำหนัก
Acid = ความเป็นกรด
Bitter = ความขม
Very weak = อ่อน/บางมาก
Slightly weak = ค่อนข้างอ่อน/บาง
Average = ค่ากลาง
Slightly strong = ค่อนข้างเข้มข้น
Very strong = เข้มข้น
ORTHO = การดมกลิ่นทางจมูกส่วนหน้า
RETRO = การประเมินกลิ่นหลังจากที่ดื่มหรือกลืนลงไป
W = weak (อ่อน)
S = strong (เข้มข้น)
Flavor Map = กลุ่มกลิ่นรส Flavor ของกาแฟยุคใหม่
ช่องรวมคะแนน ORTHO = คะแนน ÷ 2
ช่องรวมคะแนน RETRO
ช่องรวมคะแนน Total = (ORTHO ÷ 2) + RETRO
ช่องประเมินคะแนนกาแฟตามกลุ่ม F,C,B,S
Brewing GUIDE
Brew (Sounds like Broo)
คือนิยามที่ใช้อธิบายกระบวนการทำกาแฟทั้งหมด (ชงกาแฟ ดริป ฯลฯ)
Extraction
Extraction การสกัด หมายถึง กระบวนการแยก (separation) โดยใช้ของเหลวอีกชนิดหนึ่งเป็นตัวทำละลาย สารที่ต้องการแยกโดยให้ละลายออกมาในตัวทำละลาย
Strength หรือ Body คือความเข้มข้นที่เกิดขึ้นในกาแฟ (1.15-1.45%)
***การสกัดที่ยอดเยี่ยมคือ Balance เป็นความสมดุลระหว่าง Extraction and Strength
More Extraction : Over Extraction
Over - Extraction > 22%
การสกัดที่ออกมามากเกินไป จะทำให้กาแฟมีสีเข้ม รสขม น้ำหนักมาก และอาจมีรสชาติเหมือนยา
(สำหรับกาแฟคุณภาพสูง อาจจะสามารถ สกัดได้ มากกว่า 22%)
Less Extraction : Under Extraction
Under - Extraction < 18%
การสกัดน้อยเกินไป จะทำให้กาแฟมีสีใส รสอ่อน ฝาด เปรี้ยวแหลม น้ำหนักบาง และอาจมีกลิ่นเขียวคล้ายน้ำผัก
...
1.Ratio
Ratio คือ อัตราส่วน หรือปริมาณของ กาแฟ ต่อ น้ำ
(Ratio ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เครื่องชง วิธีการ และเทคนิคที่ใช้ในการบรูว์)
Ex. Ratio 1 : 15 (กาแฟ 1 กรัม น้ำ 15 กรัม)
บรูว์โดยใช้กาแฟ 16 กรัม น้ำ 240 กรัม (16*15 = 240)
More Ratio : More Weak
Less Ratio : More Strong
2.Grind Size
เป็นส่วนสำคัญของการบรูว์ และขนาดของกาแฟบดจะส่งผลต่อการสกัด
ผงกาแฟหยาบ
มีขนาดใหญ่ + มีช่องว่างระหว่างผงกาแฟกว้าง = ทำให้น้ำไหลผ่านเร็ว ใช้เวลาสกัดเร็ว ส่งผลให้เกิดการสกัดน้อย
(เหมาะสำหรับเครื่องชงแบบแช่ หรือกาแฟคั่วกลาง/เข้ม)
**หมายเหตุถ้ากาแฟคั่วอ่อนนำมาแช่ ใช้เรื่องของอุณหภูมิ + ระยะเวลาเพิ่ม
ผงกาแฟละเอียด
มีขนาดเล็ก + มีช่องว่างระหว่างผงกาแฟน้อย = ทำให้น้ำไหลผ่านช้า น้ำเข้าไปสกัดได้ทั่วทุกมุม ใช้เวลาสกัดช้า ส่งผลให้เกิดการสกัดมาก
(เหมาะสำหรับเครื่องชงแบบเอสเพรสโซ่ หรือกาแฟคั่วอ่อน)
**หมายเหตุขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่นำไปใช้
Fine Grinding : More Body
Coarse Grinding : More Bright
3.Time
คือระยะเวลาที่น้ำสัมผัสกับกาแฟ (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เครื่องชง Grind Size, Temperature, Turbulence)
ระยะเวลาเร็ว = จะทำให้เกิดการสกัดเร็ว
ระยะเวลาช้า = จะทำให้เกิดการสกัดช้า
More time : More Body
Less time : Less Bitter
******* บดหยาบ + ระยะเวลาช้า = เพิ่มการสกัด (More Body)
บดละเอียด + ระยะเวลาเร็ว = ลดการสกัด (Less Bitter)
4.Temperature
อุณหภูมิน้ำ เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม
คล้ายๆ กับการใช้ไฟทำอาหาร ไฟอ่อน = ไม่สุก , ไฟแรง = ไหม้
**แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว น้ำเดือด 100 ไม่ได้ทำให้กาแฟไหม้ ทำให้สกัดสาร Caffeine ออกมาได้มาก กาแฟอาจจะมี รสขมกว่า การใช้น้ำที่อุณหภูมิ ต่ำกว่า
โดยปกติจะใช้อุณหภูมิน้ำประมาณ 91-96 องศาเซลเซียส
(ข้อมูล จากงานวิจัย ของ ICO ช่วง 94 องศา เป็น ช่วงที่ สกัดสารละลายออกมาได้มากที่สุด
(ขึ้นอยู่กับ การแปรรูป ระดับการคั่ว โปรไฟล์รสชาติ ความสดใหม่ และความต้องการการสกัด)
อุณหภูมิน้ำที่สูงเกินไป = สกัดมาก
(เหมาะกับกาแฟคั่วอ่อน หรือมีรสชาติอ่อน)
อุณหภูมิน้ำที่ต่ำเกินไป = สกัดน้อย
(เหมาะกับกาแฟคั่วเข้ม หรือมีรสชาติเข้ม)
Higher Temperature : More body
Lower Temperature : Less bitter
5.Turbulence
เป็นการหมุน หรือการคนผสม จะช่วยให้น้ำเข้าไปสกัดกาแฟได้ทั่วทุกมุม
Turbulence เปรียบเสมือนรสมือ ลักษณะการวน น้ำหนักมือ ระดับความสูง ขนาดสายน้ำ จังหวะและระยะเวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยิ่งวนมากก็จะยิ่งทำให้เพิ่มการสกัดมากขึ้น
More Turbulence : More Body
Less Turbulence : Less Bitter
6.Water TDS
น้ำเป็นส่วนประกอบในกาแฟ Espresso ประมาน 90% และในกาแฟ Filter มีประมาณ 98.5% น้ำทำหน้าที่เป็นสารละลายและสกัดรสชาติออกมาระหว่างการบรูว์
การวัดผลรวมของแร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำ TDS หรือ Total Dissolved Solid (หลักๆจะมี แคลเซียม และแมกนีเซียม) จะช่วยให้รู้ว่าน้ำที่ใช้มีแร่ธาตุอยู่มากหรือน้อย และนำไปวางแผนหรือปรับปัจจัยการชงอื่นๆ เพื่อช่วยป้องกันการสกัดไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป
TDS สูง = สกัดมาก (น้ำที่มีแร่ธาตุ หรือน้ำแร่)
น้ำที่ค่าแร่ธาตุสูง จะไปกัน Flavor กลุ่มโทน Enzymatic และอาจนำพารสชาติหรือสิ่งที่ไม่ดีในกาแฟออกมาด้วย (Over Extraction)
TDS ต่ำ = สกัดน้อย (น้ำที่ผ่านการกรอง)
น้ำที่ค่าแร่ธาตุต่ำ จะทำให้สกัดกาแฟออกมาได้น้อย รสชาติที่ได้จะมีความสว่าง เปรี้ยวแหลมหรือมีรสคล้ายน้ำต้มผัก (Under Extraction)
การผสมน้ำหรือปรับค่าน้ำให้ได้ TDS ที่ต้องการจะช่วยทำให้ควบคุมการสกัดได้ดี
More TDS = More Body
Less TDS = More Bright
****** TDS สูง + อุณหภูมิต่ำ + บดหยาบ = ลดการสกัด
TDS ต่ำ + อูณหภูมิสูง + บดละเอียด = เพิ่มการสกัด
...
การเข้าใจปัจจัยต่างๆ จะช่วยทำให้เรารู้ถึง เหตุและผล จากการบรูว์ในแต่ละครั้ง และสามารถนำไปปรับใช้ ทดลองหาเทคนิคที่เหมาะสม สนุกกับการบรูว์และการดื่มกาแฟในทุกๆวันนะคะ